ว่านหางจระเข้ สมุนไพรช่วยประสานกระดูก

Last updated: 18 ก.พ. 2567  |  335 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ว่านหางจระเข้ สมุนไพรช่วยประสานกระดูก

            ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาบาเดนซิลมิลล์ (Aloe barbadensis Miller) เป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ของว่านหางจระเข้ที่เราคุ้นเคยกันดี มีสรรพคุณและประโยชน์มากมายทั้งในด้านการแพทย์ การเกษตร และการประดับตกแต่ง  ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาบาเดนซิลมิลล์ มีลักษณะเป็นต้นไม้อวบน้ำ มีใบหนาอ้วนสีเขียว บางสายพันธุ์มีจุดสีขาวบนใบ ขอบใบมีฟันเล็ก ๆ สีขาว ออกดอกสีเหลืองรูปหลอด ยาว 2-3 ซม ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาบาเดนซิลมิลล์ มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และมีการแพร่กระจายไปทั่วโลก

          ว่านหางจระเข้มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามิน A, B1, B2, B6, C, E และฟอลิคแอซิด แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และเหล็ก นอกจากนี้ ยังมีสารสำคัญอื่น ๆ เช่น สารแอนทราควิโนน (Anthraquinone) ที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย สารอะโลอิน (Aloin) ที่มีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้อ สารอะโลเอมอดิน (Aloemodin) ที่มีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะ สารอะโลเอมทิน (Aloemannan) ที่มีฤทธิ์เป็นยาลดน้ำตาลในเลือด และสารอะโลเอมอลิน (Aloeemalin) ที่มีฤทธิ์เป็นยาต้านอนุมูลอิสระ

ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณที่สามารถรักษาแผล บำรุงผิว แก้ไอ เจ็บคอ ป้องกันโรคเบาหวาน รักษาโรคตับ และรักษาสมองผิดปกติได้  นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เนื้อวุ้นรับประทานเพื่อช่วยประสานกระดูก ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอาการข้อเสื่อม ข้ออักเสบ ข้อเข่าเสื่อม หรือข้อเข่าปวดได้


ว่านหางจระเข้ช่วยประสานกระดูกได้อย่างไร
          ว่านหางจระเข้ช่วยประสานกระดูกได้ด้วยการกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อกระดูก และเพิ่มปริมาณของคอลลาเจน ซึ่งเป็นสารสำคัญในการสร้างกระดูก และเส้นเอ็น นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีสารอะโลเอมอดิน ที่มีฤทธิ์เป็นยาต้านการอักเสบ และลดการสึกหรอของกระดูก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดข้อ การรับประทานเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้ จึงช่วยให้กระดูกแข็งแรง มีความยืดหยุ่น และลดอาการปวดข้อได้

 วิธีการรับประทานว่านหางจระเข้เพื่อประสานกระดูก มีดังนี้

-        เลือกใบว่านหางจระเข้ที่สดและมีอายุมากกว่า 1 ปี ล้างให้สะอาด แล้วปอกเปลือกออก

-        นำเนื้อวุ้นที่ได้ไปล้างให้สะอาดอีกครั้ง แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

-        นำเนื้อวุ้นไปปั่นเป็นน้ำ หรือนำไปต้มเป็นน้ำเชื่อม หรือนำไปผสมกับผลไม้หรือน้ำผลไม้ตามชอบ

-        รับประทานวันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 2-4 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 30-60 มิลลิลิตร


ข้อควรระวังบางอย่างในการทำและบริโภค ดังนี้


-        ควรปอกเอาเปลือกและยางสีเหลืองที่อยู่ใต้ใบว่านหางจระเข้ออกโดยใช้มีดคมๆและทิ้งมันไป เพราะยางสีเหลืองอาจทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย หรือเป็นตะคริวในลำไส้ใหญ่ได้


-        ควรใช้เจลว่านหางจระเข้ทันทีหลังจากที่นำมันออกมาจากใบ เพราะมันจะออกซิดายเพียงแค่ 2-3 นาทีและเริ่มที่จะสูญเสียคุณค่าที่มีประโยชน์

 

 


"เฮ็ลธ์ฟู้ดส์: น้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ 99.67% สำหรับสุขภาพที่ดีกว่า"

           ทางเฮ็ลธ์ฟู้ดส์ ภูมิใจนำเสนอน้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ 99.67% ผลิตจากวุ้นของต้นว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาบาเดนซิล มิลล์ ที่มีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป  ผลิตภัณฑ์น้ำว่านหางจระเข้ที่ไม่มีการผสมน้ำผลไม้ หรือเติมแต่งใดๆ ทุกขั้นตอนการผลิต ถูกคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย เหมือนกับการได้รับประทานน้ำว่านหางจระเข้สดๆ จากธรรมชาติ    รับประทานง่าย ดื่มเป็นประจำทุกวันเพื่อสุขภาพที่ดี

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้