ลูทีน ซีแซนทีน อาหารของดวงตา ตัวช่วยป้องกันอันตรายจากรังสียูวีและแสงสีฟ้า

Last updated: 11 มิ.ย. 2567  |  261 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ลูทีน ซีแซนทีน อาหารของดวงตา  ตัวช่วยป้องกันอันตรายจากรังสียูวีและแสงสีฟ้า

ลูทีน (Lutein) และ

ซีแซนทีน (Zeaxanthin)

       เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของคนเราอยู่แล้ว โดยพบว่าบริเวณเลนส์ตาและศูนย์กลางจอประสาทตา (Macula) จะมีสารเหล่านี้อยู่หนาแน่นมากที่สุด แต่เนื่องจากร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างลูทีนและซีแซนทีนขึ้นมาได้เอง จึงจำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร ซึ่งพบมากในผักใบเขียว ไข่แดง กีวี องุ่น ซูกินี ข้าวโพด เป็นต้น หรืออาจได้รับจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นอกจากนี้ยังพบลูทีนและซีแซนทีนมากในดอกดาวเรือง ซึ่งนิยมนำมาสกัดเพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับบำรุงดวงตาอีกด้วย ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นแคโรทีนอยด์ 2 ใน 600 ชนิดของแคโรทีนอยด์ที่พบในจุดรับภาพของดวงตามนุษย์ ที่มีสำคัญต่อดวงตา

        โดยลูทีน เป็นเม็ดสี สีเหลืองส้มที่อยู่ในกลุ่มย่อยของแคโรทีนอยด์แซนโทฟิลล์ พบในผักใบเขียวที่มีความเข้มข้นสูง เช่น ผักโขม เคล และบรอกโคลี รวมทั้งในผลไม้บางชนิด เช่น กีวีฟรุตและองุ่น ในร่างกายมนุษย์ ลูทีนจะถูกดูดซึมจากอาหาร และจะสะสมอยู่ในจุดรับภาพ (macula) ซึ่งเป็นพื้นที่เล็กๆ ใจกลางเรตินาซึ่งมีหน้าที่ในการมองเห็นที่คมชัดและมีรายละเอียด ส่วนซีแซนทีน เป็นเม็ดสี สีเหลืองส้มอีกชนิดหนึ่งและเป็นแซนโทฟิลล์แคโรทีนอยด์ด้วย มักอยู่คู่กับลูทีน และพบในอาหารชนิดเดียวกันหลายชนิด  มีบทบาทสำคัญในการดูแลและบำรุงสุขภาพสายตา ปกป้องดวงตาจากคลื่นแสงพลังงานสูงที่เป็นอันตราย โดยเฉพาะแสงจากสเปกตรัมแสงสีน้ำเงิน

ทั้งลูทีนและซีแซนทีนทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ มีหน้าที่ป้องกันดวงตาจากแสงแดด หรือคลื่นแสงพลังงานสูงอย่างรังสีอัลตราไวโอเลต และกรองแสงสีฟ้าซึ่งเป็นอันตรายต่อจอประสาทตา ซึ่งเป็นแสงที่หลีกเลี่ยงได้ยากเพราะมีอยู่ทั่วไปรอบๆ ตัวเรา เช่น แสงจากโทรทัศน์ แสงจากจอคอมพิวเตอร์ แสงจากหลอดไฟ เป็นต้น ดังนั้น การสะสมของลูทีนและซีแซนทีนในจอประสาทตาด้วยการรับประทานอาหารที่มีสารแคโรทีนอยด์ทั้ง 2 ชนิดเข้าสู่ร่างกาย จึงมีส่วนช่วยลด ป้องกัน หรือชะลอการเกิดโรคตาบางชนิด เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย (AMD) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุ รวมถึงลดภาวะเสี่ยงการเป็นโรคต้อกระจกด้วย
        โดยงานวิจัยของสหรัฐอเมริกามีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ป่วยที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมจะมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นและทวีความรุนแรงมากขึ้น นักวิจัยหลายคนจึงเชื่อว่าลูทีนและซีแซนทีนเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างการมองเห็นและบำรุงสุขภาพดวงตา โดยเฉพาะแก้วตาและจอประสาทตา 

การรับประทานลูทีนและซีแซนทีน เพื่อประโยชน์ต่อดวงตา 

ปริมาณที่ร่างกายควรได้รับลูทีนและซีแซนทีนในแต่ละวัน ดังนี้

  • ลูทีนอย่างน้อย 6-20 มก. และซีแซนทีน 0.2-4 มก. ต่อวันเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม
  • ลูทีนและซีแซนทีนรวมกัน 20 มก. ต่อวัน นาน 24-42 สัปดาห์ จะช่วยเพิ่มระดับการมองเห็นในผู้มีปัญหาจอประสาทตาเสื่อม            
  •   ในขณะที่ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้กำหนดปริมาณลูทีนและซีแซนทีนที่ควรรับประทานในแต่ละวันไว้ไม่เกิน 20 มก. ต่อวัน

แหล่งอาหารที่ให้ลูทีนที่ดีที่สุด ซึ่งสามารถหารับประทานได้ง่าย นั่นก็คือ คือ ผักใบเขียว เช่น

  • ผักปวยเล้ง จะมีลูทีน 6.5-13.0 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักผักสด 100 กรัม 
  • ผักคะน้าจะมีลูทีนในปริมาณ 4.8-13.4 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักผักสด 100 กรัม
  • ผักกาดแก้ว (ดิบ) มีลูทีน 2.6 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักผักสด 100 กรัม
  •  บรอกโคลี (สุก) มีลูทีนและซีแซนทีน 2.2 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักผักสด 100 กรัม 

ผลิตภัณฑ์ AI PRO  มี Lutein Zeaxanthine 
        ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับฟื้นฟู ดูแล และบำรุงดวงตาโดยเฉพาะ เน้นสารสกัดจาก ลูทีนและซีแซนทีนจากดอกดาวเรือง สารสกัดจากซีบัคธอร์น ที่มีโอเมก้า 3,6,7,9  รวมถึง Acerola Cherry มีสารเบต้าแคโรทีน และคอลลาเจนเปปไทด์    ซึ่งมีการวิจัยพบว่า 

  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ลดอาการตาแห้ง
  • ลดอาการตาล้าจากการใช้สายตาอย่างหนัก
  • ปกป้องดวงตาจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงยูวี แสงสีฟ้าจากจอโทรศัพท์มือถือ จอคอมพิวเตอร์
  • ลดความเสี่ยงจากโรคจอประสาทตาเสื่อม และโรคต้อกระจก
  • ช่วยกรองหรือป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อดวงตา
  • ช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย โดยการลดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากแสงยูวี
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล :
https://www.mhesi.go.th/index.php/all-media/infographic/7352-650512general.html


 



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้