Last updated: 18 ก.พ. 2567 | 423 จำนวนผู้เข้าชม |
โรคกรดไหลย้อน เกิดจากการไหลย้อนกลับของกรดหรือน้ำย่อยในกระเพะอาหารขึ้นมาเหนือกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนบนอย่างผิดปกติ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองของกรดต่อเยื่อบุหลอดอาหาร ลำคอ และกล่องเสียง มักพบบ่อยในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป โดยจะพบอัตราการเกิดสูงขึ้นในคนที่อายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป (พบสูงสุดในคนอายุ 60-70 ปี ขึ้นไป) แต่ก็อาจพบได้ในเด็กเล็กและคนวัยหนุ่มสาวได้ด้วยเช่นกัน
โรคกรดไหลย้อน เกิดจากการไหลย้อนกลับของกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารขึ้นมาเหนือกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารส่วนบนอย่างผิดปกติ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองของกรดต่อเยื่อบุหลอดอาหาร ลำคอ และกล่องเสียง มักพบบ่อยในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป โดยจะพบอัตราการเกิดสูงขึ้นในคนที่อายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป (พบสูงสุดในคนอายุ 60-70 ปี ขึ้นไป) แต่ก็อาจพบได้ในเด็กเล็กและคนวัยหนุ่มสาวได้ด้วยเช่นกัน โดยมีการพบเจอมากกว่าในผู้ชายประมาณ 3 เท่าของผู้หญิง สาเหตุของโรคนี้เกิดจากกล้ามเนื้อหูรูดส่วนล่างของหลอดอาหารหย่อนสมรรถภาพ ทำให้น้ำย่อยไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารมากกว่าปกติ ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุหลอดอาหาร
"กรดไหลย้อน" มีสามระยะหลักๆ
ระยะละอองที่ค่อนข้างน้อย (Infrequent or Occasional Heartburn): ในระยะนี้, คนที่มีโรคกรดไหลย้อนจะสามารถควบคุมอาการได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารและการดูแลรักษาตนเอง. อาการหลักคือการรู้สึกแสบลิ้นปี่หรือยอดอกหลังทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่เป็นกรด
ระยะประจำ (Frequent Heartburn): ในระยะนี้, อาการกรดไหลย้อนจะเกิดบ่อยขึ้น, มีโอกาสเป็นโรคกรดไหลย้อน. อาการที่สำคัญคือความรู้สึกแสบลิ้นปี่หรือยอดอกมีความถี่มากขึ้น, โดยอาจเกิดในช่วงเวลาที่เก้าอี้ทำหมันหรือตอนกลางคืน.
ระยะที่รุนแรง (Severe Heartburn or GERD): ในระยะนี้, การรู้สึกแสบลิ้นปี่หรือยอดอกเป็นประจำและมีความรุนแรงมากขึ้น. อาจมีอาการเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เช่น กินอาหารลำบาก, อาการไอ, หรือปัญหาการหายใจ.
อาการของโรคกรดไหลย้อน ที่เกิดขึ้นมักประกอบไปด้วยความรู้สึกแสบลิ้นปี่, การคลื่นไส้, การเคี้ยวที่เป็นที่ลำบาก, หรือรู้สึกเจ็บหน้าอก. ซึ่งมักเกิดหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆ หรือหลังทานอาหารแล้วนอนราบ งอตัว อาการปวดมักเกิดประมาณ 2 ชั่วโมง
การรักษาโรคกรดไหลย้อนมีหลายวิธี : โดยสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น
- รับประทานอาหารปริมาณน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง
- ไม่ควรนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด, อาหารที่มีไขมันสูง
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, น้ำผลไม้
- รับประทานอาหารมื้อเย็นก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
อันตรายของโรคกรดไหลย้อน หากไม่รักษา
หากเป็นโรคกรดไหลย้อนแล้วปล่อยเนิ่นนานจนเป็นเรื้อรัง ก็จะส่งผลให้หลอดอาหารมีแผล หรือหลอดอาหารตีบ ทำให้กลืนติด กลืนลำบาก หรือบางคนร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งที่หลอดอาหารเลยก็ได้ เพราะหลอดอาหารส่วนปลายมีการสัมผัสกับกรดมากเกินไป ทำให้เซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นมะเร็งในที่สุด
น้ำว่านหางจระเข้กับคุณสมบัติการรักษาโรคกรดไหลย้อน
น้ำว่านหางจระเข้มีสรรพคุณทางการแพทย์ที่น่าสนใจมากมาย คุณสมบัติที่ทำให้น้ำว่านหางจระเข้ช่วยดูแลเรื่องกรดไหลย้อนได้แก่:
- ลดการอักเสบ: สารสกัดจากว่านหางจระเข้มีสมบัติต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการบวมและแดงบริเวณหลอดอาหาร.
- ลดการผลิตกรด: น้ำว่านหางจระเข้มีความสามารถในการลดการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร, ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อน.
- สมดุลความเป็นกรด: การบรรเทาความร้อนและลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น.
น้ำว่านหางจระเข้ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น
- สุขภาพทางระบบย่อย: สารอาหารที่มีอยู่ในน้ำว่านหางจระเข้สามารถช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและดูแลระบบทางเดินอาหาร.
- ความปลอดภัยและธรรมชาติ: น้ำว่านหางจระเข้ไม่มีสารเคมีที่มีผลข้างเคียงในการใช้งาน ทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและธรรมชาติในการดูแลสุขภาพ
การดื่มน้ำว่านหางจระเข้ แบรนด์เฮ็ลธ์ฟู้ดส์ เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านว่านหางจระเข้ น้ำว่านหางจระเข้ ช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้ เพราะว่านหางจระเข้มีสารอะโลอีโมนดิน (Aloe-Emodin) และสารอะโลอิน (Aloin) ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และช่วยลดระดับความดันโลหิต และควบคุมน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังมีส่วนช่วยปกป้องชั้นเคลือบในกระเพาะอาหารและหลอดอาหารได้
น้ำว่านหางจระเข้ แบรนด์เฮ็ลธ์ฟู้ดส์ เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ผ่านการปลูกแบบพิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปอกเปลือกไปจนถึงการบรรจุลงขวด เพื่อให้ได้น้ำว่านหางจระเข้ที่สดใหม่ อันแน่นด้วยคุณค่าของว่านหางจระเข้ ทั้งไม่ใส่สารกันบูด ไม่ใส่สี ไม่ผสมน้ำผลไม้ ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย และดีต่อสุขภาพ เสมือนได้ทานน้ำว่านหางจระเข้สดๆ จากธรรมชาติ
15 ก.ย. 2567
15 ก.ย. 2567
10 ก.ย. 2567