Last updated: 24 มี.ค. 2567 | 1493 จำนวนผู้เข้าชม |
ทำไมกระชายขาวถึงถูกนำมาอ้างว่าสามารถป้องกันโควิด-19 ได้?
ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่าทีมวิจัยที่เป็นการร่วมมือกันของคณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดลและศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน)หรือ TCELS พบว่าในกระชายขาวมีสารที่มีฤทธิ์ต้านโควิด-19 สูงมาก
ทีมวิจัยไทยพบสารสกัดจาก "กระชายขาว" มีฤทธิ์ต้านโควิด-19
ดร. ศุภฤกษ์ บวรภิญโญ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้าน การค้นหาตัวยา ECDD กล่าวว่า ทีมวิจัยค้นพบว่ามีสารสกัดจากกระชายขาว ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้ โดยสารสำคัญที่อยู่ในกระชายขาว คือ PINOSA มีส่วนประกอบ 2 ตัวคือ Pandulatin A & Pinostrobin สารทั้งสองในกระชายขาว สามารถทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสต้นเหตุโควิด-19 ได้
กินกระชายขาวอย่างไร ถึงจะช่วยป้องกันโควิด-19 ได้?
การใช้สารสกัดจากกระชายขาวเพื่อต้านโรคโควิด-19 ควรยังอยู่ในรูปแบบของสารสกัด ควบคุมปริมาณสารสำคัญที่จะออกฤทธิ์ได้อย่างแน่นอน จึงจะสามารถควบคุมปริมาณในการทานให้เหมาะสม โดย
1. เป็นกระชายขาว พันธ์ุรากกล้วย
2. มีสาร PINOSA ประกอบไปด้วย Pandulatin A & Pinostrobin โดยเฉพาะการใช้สาร Pinostrobin จำนวน 180mg. ต่อวัน
3. ใช้กระบวนการสกัดด้วยสารเอทานอล
ทางมหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS หากพบเห็นผลิตภัณฑ์อื่นหรือยาแคปซูลอื่นๆ ที่อ้างว่ามีสารสกัดจากกระชายขาวที่ช่วยป้องกันโควิด ขอยืนยันว่าไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของมหาวิทยาลัย และทางมหาวิทยาลัยไม่มีความเห็นต่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ
คำแนะนำ การทานสารสกัดกระชายขาว
1.) ทานป้องกัน รับประทานครั้งละ 2เม็ด วันละ 1-2 ครั้ง ขึ้นกับเวลาที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง
2.) หากสัมผัสกับผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยงสูง ให้ทาน 3เม็ด / เวลา เป็นเวลา5 วัน แต่หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ระหว่างนั้นให้ปรับมาทานแบบข้อ 3
3.) หากมีอาการไข้ เจ็บคอ ไอ ให้ทาน 5เม็ด 3 เวลา เป็นเวลา 5 วัน
4.) หากมีโรคประจำตัว อ้วน อาการหนักมาก ให้ทาน 6เม็ด 3 เวลา ครบ5 วัน ลดลงเหลือ 4เม็ด 3 เวลา อีก 2 วัน และลดลงเหลือ 2เม็ด 3 เวลาอีก 2 วัน
คำเตือน
เนื่องจากกระชายเป็นสมุนไพรธาตุร้อน ควรทานหลังอาหาร ไม่แนะนำให้ทานทุกวัน เช่น ทาน 5-6วัน เว้น 1-2วัน (วันที่อยู่บ้าน) และควรดื่มน้ำมากๆ
เครดิต: ข้อมูลจากเว็บไซต์ sanook.com
19 ธ.ค. 2567
19 ธ.ค. 2567