Last updated: 1 ส.ค. 2567 | 258 จำนวนผู้เข้าชม |
สมองเสื่อม 2024 วิกฤตสุขภาพที่คนไทยต้องรู้ก่อนสาย
ภาวะสมองเสื่อมในไทย
ในยุคที่สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว เรากำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่ไม่อาจมองข้าม นั่นคือ "ภาวะสมองเสื่อม" จากการคาดการณ์ล่าสุด ในปี 2573 หรืออีกเพียง 6 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมถึง 1.4 ล้านคน นั่นหมายความว่า ในทุก ๆ 50 คน จะมี 1 คนที่กำลังต่อสู้กับโรคนี้ ตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่สถิติ แต่เป็นสัญญาณเตือนที่เราทุกคนต้องตื่นตัวและเตรียมพร้อมรับมือ
“ความเข้าใจผิดที่อาจทำให้เราพลาดโอกาสในการป้องกัน”
หลายคนอาจคิดว่าภาวะสมองเสื่อมเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้สูงอายุ ไม่สามารถป้องกันหรือรักษาได้ ความจริงแล้ว เราสามารถลดความเสี่ยงและชะลอการเกิดโรคได้ด้วยการดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้
การสังเกตอาการเบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์:
- พูดหรือถามเรื่องเดิมซ้ำๆ ภายในระยะเวลาสั้นๆ
- ลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดมาไม่นาน
- หาของไม่เจอบ่อยๆ
- ลืมนัดสำคัญบ่อยๆ
- สับสนเรื่องทิศทาง หลงทางในที่คุ้นเคย
- นึกคำพูดยากขึ้นหรือใช้คำผิดบ่อยๆ
- บุคลิก อารมณ์เปลี่ยน
- บกพร่องในทักษะที่เคยทำได้ เช่น การใช้รีโมทโทรทัศน์ การทำกับข้าว
โดยอาการมักจะค่อยเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะเวลาเป็นเดือนหรือปี
โรคร้ายที่เกิดจากภาวะสมองเสื่อม
ภาวะสมองเสื่อมไม่ใช่เพียงโรคๆเดียว แต่เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งนำไปสู่โรคร้ายต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว ดังนี้:
1. โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Disease)
เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม ซึ่งพบมาก 60-70% ของกรณีทั้งหมด
เกิดจากการสะสมของโปรตีนผิดปกติในสมอง ทำให้เซลล์สมองตายและสมองฝ่อลง
อาการเริ่มจากความจำเสื่อม และค่อย ๆ ลุกลามไปสู่การสูญเสียความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน
2. โรคสมองเสื่อมจากหลอดเลือด (Vascular Dementia)
เกิดจากการขาดเลือดไปเลี้ยงสมองเป็นเวลานาน หรือจากโรคหลอดเลือดสมอง
อาการมักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและเป็นขั้นบันได
ผู้ป่วยอาจมีปัญหาด้านการวางแผน การตัดสินใจ และการทำงานที่ซับซ้อน
3. โรคสมองเสื่อมชนิดเลวี่ บอดี้ (Lewy Body Dementia)
เกิดจากการสะสมของโปรตีนผิดปกติในสมองที่เรียกว่า "เลวี่ บอดี้"
นอกจากปัญหาด้านความจำ ผู้ป่วยมักมีอาการประสาทหลอน หลงผิด และมีปัญหาการเคลื่อนไหวคล้ายโรคพาร์กินสัน
4. โรคสมองเสื่อมชนิดฟรอนโทเทมโพรัล (Frontotemporal Dementia)
เกิดจากการเสื่อมของเซลล์สมองบริเวณสมองส่วนหน้าและขมับ
ผู้ป่วยมักมีการเปลี่ยนแปลงทางบุคลิกภาพและพฤติกรรมอย่างชัดเจน เช่น ขาดความยับยั้งชั่งใจ หรือเฉยเมยต่อสิ่งรอบตัว
5. โรคสมองเสื่อมจากโรคพาร์กินสัน (Parkinson's Disease Dementia)
เกิดในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันที่มีอาการมานาน
นอกจากปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ผู้ป่วยจะมีปัญหาด้านความคิด การตัดสินใจ และอาจมีอาการประสาทหลอน
6. โรคสมองเสื่อมแบบผสม (Mixed Dementia)
เกิดจากการมีสาเหตุของภาวะสมองเสื่อมมากกว่าหนึ่งอย่างร่วมกัน เช่น อัลไซเมอร์ร่วมกับโรคหลอดเลือดสมอง
อาการและการดำเนินโรคอาจซับซ้อนและแตกต่างกันไปในแต่ละราย
7. โรคสมองเสื่อมจากการติดเชื้อ (Infectious Dementia)
เช่น โรคสมองเสื่อมจากการติดเชื้อ HIV หรือโรคซิฟิลิสระยะท้าย
การรักษาที่ต้นเหตุอาจช่วยฟื้นฟูการทำงานของสมองได้บางส่วน หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่น ๆ
8. โรคสมองเสื่อมจากสารพิษ (Toxic Dementia)
เกิดจากการได้รับสารพิษเป็นเวลานาน เช่น แอลกอฮอล์ โลหะหนัก หรือสารเคมีบางชนิด
การหยุดรับสารพิษและการรักษาที่เหมาะสมอาจช่วยฟื้นฟูการทำงานของสมองได้บางส่วน
มีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง?
1. ใส่ใจสุขภาพกาย
ควบคุมความดัน เบาหวาน และไขมันในเลือด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ไฟเบอร์ และไขมันดี
2. ฝึกสมอง
เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นภาษา ดนตรี หรืองานอดิเรก จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีการศึกษาสูงและเรียนรู้ตลอดชีวิตมีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมน้อยกว่า
3. สร้างความสัมพันธ์
พบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ร่วมกิจกรรมในชุมชน หรือทำงานอาสาสมัคร การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมช่วยกระตุ้นสมองและลดความเสี่ยงของโรคได้
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
นอนหลับให้ได้คุณภาพอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน การนอนหลับช่วยให้สมองได้ฟื้นฟูและกำจัดสารพิษ
5. จัดการความเครียด
ฝึกสมาธิ โยคะ หรือหาวิธีผ่อนคลายที่เหมาะกับตัวเอง ความเครียดเรื้อรังส่งผลเสียต่อสุขภาพสมองในระยะยาว
แม้ว่าโรคเหล่านี้จะฟังดูน่ากลัว แต่การตระหนักรู้และเข้าใจถึงความเสี่ยงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการป้องกันและรับมือ การป้องกันและชะลอภาวะสมองเสื่อมไม่ใช่เรื่องของวันพรุ่งนี้ แต่เป็นสิ่งที่เราทุกคนควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ทุกการกระทำ ทุกการเลือก มีผลต่อสุขภาพสมองของคุณในระยะยาว ดังนั้น ให้ผลิตภัณฑ์เซลล์ไรซ์พลัส และโคเอ็นไซม์ คิวเท็น พลัส ช่วยดูแลและป้องกันสุขภาพสมองของท่าน
เซลล์ไรซ์ พลัส
ไขมันต่ำ ปลอดกลูเตน ช่วยส่งเสริมพลังในการปกป้องดูแลสุขภาพจากภายในอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัย ช่วยปลดพันธนาการกลไกของเซลล์ภายในร่างกายให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสภาวะสมดุลของระบบภายในร่างกาย ให้สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ตั้งแต่ระดับเซลล์ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการชะลอการเสื่อมก่อนวัยและแก้ปัญหาสุขภาพที่ต้นเหตุ
คุณประโยชน์ เซลล์ไรซ์ พลัส
- ให้พลังงานและสารสำคัญที่เป็นวัตถุดิบแก่เซลล์ กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน ในการนำไปใช้ฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
- ช่วยฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาทและเซลล์สมองได้เป็นอย่างดี
- ลดการเกิดของเสียในเซลล์
- ลดการเกิดอนุมูลอิสระในเซลล์ ลดความเสี่ยงจากโรคร้าย
- ช่วยทำความสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบขจัดสารพิษในร่างกาย
- ช่วยกระตุ้นการขจัดอนุมูลอิสระออกจากเซลล์ทำให้สุขภาพสดใส ห่างไกลโรคภัย
ไอริส โคเอ็นไซม์ คิวเท็น พลัส
โคเอ็นไซม์ คิวเท็น มีความสำคัญต่อการสร้างพลังงานของเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายอย่างยิ่ง และจำเป็นต่ออวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต ตับอ่อน
คุณประโยชน์ ไอริส โคเอ็นไซม์ คิวเท็น พลัส
- ป้องกันโรคหัวใจ และโรคตับ
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
- ป้องกันโรคเหงือก
- ต้านอนุมูลอิสระ
- บำรุงผิวพรรณ
- ลดไขมันในเส้นเลือด
- ลดการกระจายตัวของเซลล์มะเร็ง
15 ก.ย. 2567
10 ก.ย. 2567
15 ก.ย. 2567
21 มิ.ย. 2567