สมองเสื่อม 2024 : วิกฤตสุขภาพที่คนไทยต้องรู้ก่อนสาย

Last updated: 1 ส.ค. 2567  |  260 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สมองเสื่อม 2024 : วิกฤตสุขภาพที่คนไทยต้องรู้ก่อนสาย

สมองเสื่อม 2024 วิกฤตสุขภาพที่คนไทยต้องรู้ก่อนสาย

ภาวะสมองเสื่อมในไทย

 ในยุคที่สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว เรากำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่ไม่อาจมองข้าม นั่นคือ "ภาวะสมองเสื่อม" จากการคาดการณ์ล่าสุด ในปี 2573 หรืออีกเพียง 6 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมถึง 1.4 ล้านคน นั่นหมายความว่า ในทุก ๆ 50 คน จะมี 1 คนที่กำลังต่อสู้กับโรคนี้ ตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่สถิติ แต่เป็นสัญญาณเตือนที่เราทุกคนต้องตื่นตัวและเตรียมพร้อมรับมือ

“ความเข้าใจผิดที่อาจทำให้เราพลาดโอกาสในการป้องกัน”

หลายคนอาจคิดว่าภาวะสมองเสื่อมเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้สูงอายุ ไม่สามารถป้องกันหรือรักษาได้ ความจริงแล้ว เราสามารถลดความเสี่ยงและชะลอการเกิดโรคได้ด้วยการดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้

การสังเกตอาการเบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์:

- พูดหรือถามเรื่องเดิมซ้ำๆ ภายในระยะเวลาสั้นๆ
- ลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดมาไม่นาน
- หาของไม่เจอบ่อยๆ
- ลืมนัดสำคัญบ่อยๆ
- สับสนเรื่องทิศทาง หลงทางในที่คุ้นเคย
- นึกคำพูดยากขึ้นหรือใช้คำผิดบ่อยๆ
- บุคลิก อารมณ์เปลี่ยน
- บกพร่องในทักษะที่เคยทำได้ เช่น การใช้รีโมทโทรทัศน์ การทำกับข้าว

โดยอาการมักจะค่อยเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะเวลาเป็นเดือนหรือปี

โรคร้ายที่เกิดจากภาวะสมองเสื่อม

ภาวะสมองเสื่อมไม่ใช่เพียงโรคๆเดียว แต่เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งนำไปสู่โรคร้ายต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว ดังนี้:

1. โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Disease)
เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม ซึ่งพบมาก 60-70% ของกรณีทั้งหมด
เกิดจากการสะสมของโปรตีนผิดปกติในสมอง ทำให้เซลล์สมองตายและสมองฝ่อลง
อาการเริ่มจากความจำเสื่อม และค่อย ๆ ลุกลามไปสู่การสูญเสียความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน

2. โรคสมองเสื่อมจากหลอดเลือด (Vascular Dementia)
เกิดจากการขาดเลือดไปเลี้ยงสมองเป็นเวลานาน หรือจากโรคหลอดเลือดสมอง
อาการมักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและเป็นขั้นบันได
ผู้ป่วยอาจมีปัญหาด้านการวางแผน การตัดสินใจ และการทำงานที่ซับซ้อน

3. โรคสมองเสื่อมชนิดเลวี่ บอดี้ (Lewy Body Dementia)
เกิดจากการสะสมของโปรตีนผิดปกติในสมองที่เรียกว่า "เลวี่ บอดี้"
นอกจากปัญหาด้านความจำ ผู้ป่วยมักมีอาการประสาทหลอน หลงผิด และมีปัญหาการเคลื่อนไหวคล้ายโรคพาร์กินสัน

4. โรคสมองเสื่อมชนิดฟรอนโทเทมโพรัล (Frontotemporal Dementia)
เกิดจากการเสื่อมของเซลล์สมองบริเวณสมองส่วนหน้าและขมับ
ผู้ป่วยมักมีการเปลี่ยนแปลงทางบุคลิกภาพและพฤติกรรมอย่างชัดเจน เช่น ขาดความยับยั้งชั่งใจ หรือเฉยเมยต่อสิ่งรอบตัว

5. โรคสมองเสื่อมจากโรคพาร์กินสัน (Parkinson's Disease Dementia)
เกิดในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันที่มีอาการมานาน
นอกจากปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ผู้ป่วยจะมีปัญหาด้านความคิด การตัดสินใจ และอาจมีอาการประสาทหลอน

6. โรคสมองเสื่อมแบบผสม (Mixed Dementia)
เกิดจากการมีสาเหตุของภาวะสมองเสื่อมมากกว่าหนึ่งอย่างร่วมกัน เช่น อัลไซเมอร์ร่วมกับโรคหลอดเลือดสมอง
อาการและการดำเนินโรคอาจซับซ้อนและแตกต่างกันไปในแต่ละราย

7. โรคสมองเสื่อมจากการติดเชื้อ (Infectious Dementia)
เช่น โรคสมองเสื่อมจากการติดเชื้อ HIV หรือโรคซิฟิลิสระยะท้าย
การรักษาที่ต้นเหตุอาจช่วยฟื้นฟูการทำงานของสมองได้บางส่วน หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่น ๆ

8. โรคสมองเสื่อมจากสารพิษ (Toxic Dementia)
เกิดจากการได้รับสารพิษเป็นเวลานาน เช่น แอลกอฮอล์ โลหะหนัก หรือสารเคมีบางชนิด
การหยุดรับสารพิษและการรักษาที่เหมาะสมอาจช่วยฟื้นฟูการทำงานของสมองได้บางส่วน


มีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง?

1. ใส่ใจสุขภาพกาย

ควบคุมความดัน เบาหวาน และไขมันในเลือด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ไฟเบอร์ และไขมันดี

2. ฝึกสมอง

เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นภาษา ดนตรี หรืองานอดิเรก จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีการศึกษาสูงและเรียนรู้ตลอดชีวิตมีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมน้อยกว่า

3. สร้างความสัมพันธ์

พบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ร่วมกิจกรรมในชุมชน หรือทำงานอาสาสมัคร การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมช่วยกระตุ้นสมองและลดความเสี่ยงของโรคได้

4. พักผ่อนให้เพียงพอ

นอนหลับให้ได้คุณภาพอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน การนอนหลับช่วยให้สมองได้ฟื้นฟูและกำจัดสารพิษ

5. จัดการความเครียด

ฝึกสมาธิ โยคะ หรือหาวิธีผ่อนคลายที่เหมาะกับตัวเอง ความเครียดเรื้อรังส่งผลเสียต่อสุขภาพสมองในระยะยาว 

                               

                                         แม้ว่าโรคเหล่านี้จะฟังดูน่ากลัว แต่การตระหนักรู้และเข้าใจถึงความเสี่ยงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการป้องกันและรับมือ การป้องกันและชะลอภาวะสมองเสื่อมไม่ใช่เรื่องของวันพรุ่งนี้ แต่เป็นสิ่งที่เราทุกคนควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ทุกการกระทำ ทุกการเลือก มีผลต่อสุขภาพสมองของคุณในระยะยาว ดังนั้น ให้ผลิตภัณฑ์เซลล์ไรซ์พลัส และโคเอ็นไซม์ คิวเท็น พลัส ช่วยดูแลและป้องกันสุขภาพสมองของท่าน



เซลล์ไรซ์ พลัส 

ไขมันต่ำ ปลอดกลูเตน ช่วยส่งเสริมพลังในการปกป้องดูแลสุขภาพจากภายในอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัย ช่วยปลดพันธนาการกลไกของเซลล์ภายในร่างกายให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสภาวะสมดุลของระบบภายในร่างกาย ให้สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ตั้งแต่ระดับเซลล์ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการชะลอการเสื่อมก่อนวัยและแก้ปัญหาสุขภาพที่ต้นเหตุ

คุณประโยชน์ เซลล์ไรซ์ พลัส 

- ให้พลังงานและสารสำคัญที่เป็นวัตถุดิบแก่เซลล์ กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน ในการนำไปใช้ฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
- ช่วยฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาทและเซลล์สมองได้เป็นอย่างดี
- ลดการเกิดของเสียในเซลล์
- ลดการเกิดอนุมูลอิสระในเซลล์ ลดความเสี่ยงจากโรคร้าย
- ช่วยทำความสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบขจัดสารพิษในร่างกาย
- ช่วยกระตุ้นการขจัดอนุมูลอิสระออกจากเซลล์ทำให้สุขภาพสดใส ห่างไกลโรคภัย


ไอริส โคเอ็นไซม์ คิวเท็น พลัส

โคเอ็นไซม์ คิวเท็น มีความสำคัญต่อการสร้างพลังงานของเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายอย่างยิ่ง และจำเป็นต่ออวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต ตับอ่อน 

คุณประโยชน์ ไอริส โคเอ็นไซม์ คิวเท็น พลัส

 - ป้องกันโรคหัวใจ และโรคตับ
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- ป้องกันโรคอัลไซเมอร์                         
- ป้องกันโรคเหงือก
- ต้านอนุมูลอิสระ
- บำรุงผิวพรรณ
- ลดไขมันในเส้นเลือด
- ลดการกระจายตัวของเซลล์มะเร็ง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้