พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คืออะไร? สำคัญอย่างไร?

พรีไบโอติกส์ (Prebiotics)

----------------------------------------

พรีไบโอติกส์ (Prebiotics)  เป็นสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตต่าง ๆ หรือใยอาหารที่ร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้ที่ลำไส้เล็ก  อาหารเหล่านี้จึงสามารถเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ได้ในรูปไม่เปลี่ยนแปลง  พรีไบโอติกส์เป็นสิ่งไม่มีชีวิตและจะถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียโพรไบโอติกส์ (Probiotics)  ดังนั้น พรีไบโอติกส์จึงช่วยส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์  กล่าวคือ ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและเป็นอาหารให้กับจุลินทรีย์ตัวดีในลำไส้  จึงขึ้นชื่อเรื่องช่วยการขับถ่ายและปรับสมดุลของลำไส้  กล่าวง่าย ๆ ก็คือ พรีไบโอติกส์เป็นอาหารของโพรไบโอติกส์นั่นเอง

 พรีไบโอติกส์ I คืออะไร ?

          พรีไบโอติกส์เป็นสารอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่มีชื่อเรียกว่า  โอลิโกแซคคาไรด์  เช่น  ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructooligosaccharide)  อินนูลิน (Inulin)  และกาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Galactooligosaccharide)  เป็นต้น  นอกจากนี้ เรายังพบพรีไบโอติกส์ได้จากแหล่งอาหารตามธรรมชาติได้อีกด้วย  เช่น  ในต้นข้าวสาลี  ข้าวบาร์เล่ย์  ต้นอาร์ติโชค  บล็อคโคลี่  หัวหอม  กระเทียม  หน่อไม้ฝรั่ง  หรือไฟเบอร์ในผักและผลไม้ต่าง ๆ เป็นต้น  ดังนั้น  ไฟเบอร์จึงจัดได้ว่าเป็นพรีไบโอติกส์ชนิดหนึ่งที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ได้ดีค่ะ

 พรีไบโอติกส์ I ประโยชน์

1. ช่วยปรับสมดุลลำไส้  ป้องกันการติดเชื้อในลำไส้  และป้องกันอาการท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อ
2. ช่วยควบคุมปริมาณจุลินทรีย์ตัวไม่ดีในทางเดินอาหาร
3. ช่วยลดสารพิษที่สะสมตามผนังลำไส้
4. ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเสริมสร้างภูมิต้านทาน
5. เพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียม  ซึ่งอาจช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ดี
6. ช่วยให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น
7. ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล  จึงช่วยควบคุมน้ำหนัก  ลดความอ้วน
8. ป้องกันมะเร็งลำไส้
9. ลดระดับน้ำตาลในเลือด  โดยการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินเครทิน (incretin) ในลำไส้

หากร่างกายขาดพรีไบโอติกจะเกิดผลเสียใดบ้าง?

พรีไบโอติกส์เป็นอาหารของโพรไบโอติกส์  ดังนั้น ทั้ง 2 สิ่งนี้ควรรับประทานไปควบคู่กัน  เพราะถ้าหากจุลินทรีย์ขาดอาหารก็ไม่สามารถทำงานได้เช่นเดียวกัน  ดังนั้น จะพบว่าคนรุ่นใหม่ส่วนมากท้องผูกเพราะอาหารที่บริโภคในปัจจุบัน  โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปที่มักมีส่วนผสมของสารกันบูดทำให้จุลินทรีย์ตัวดีหายไปด้วย  นอกจากนี้  ความเครียด  การใช้ชีวิตที่รีบเร่ง  รวมถึงการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์  ล้วนแล้วแต่ทำให้ลำไส้ขาดสมดุลทำให้เกิดโรคทางเดินอาหารต่าง ๆ ตามมา  จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงต้องรับประทานพรีไบโอติกส์เข้าไปด้วย  ก็เพื่อให้จุลินทรีย์ตัวดีในร่างกายเรามีอาหารรับประทาน  จึงจะสามารถทำงานให้เราได้นั่นเอง

---------------------------------------------------------------

    การรักษาลำไส้ให้สมดุลด้วยการรับประทานพรีไบโอติกส์  หรืออาหารที่ช่วยในการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้  จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ร่างกายและระบบทางเดินอาหารของเราแข็งแรง  มีภูมิคุ้มกัน  เพราะเมื่อลำไส้เกิดสมดุลมีจำนวนจุลินทรีย์ชนิดดีมากกว่าจุลินทรีย์ที่ไม่ดี  ระบบทางเดินอาหารจะทำงานได้อย่างปกติ  ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์พรีไบโอติกส์เป็นตัวช่วยให้ร่างกายมีจุลินทรีย์ตัวดีเพิ่มขึ้น  เราขอแนะนำ  “I-BERRY FIBER ”  ที่มีส่วนผสมของฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์  กาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์  และสารสกัดจากผักและผลไม้อื่นเข้มข้น  ช่วยเสริมอาหารสำหรับจุลินทรีย์ตัวดีให้กับร่างกายและปรับสมดุลทางเดินอาหาร

          “เราท้าให้คุณลอง แล้วคุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาของทางเดินอาหารอีกต่อไป”