Last updated: 2 พ.ค. 2566 | 613 จำนวนผู้เข้าชม |
ทำไมต้อง ดีท็อกซ์ล้างลำไส้?
ตอบทุกคำถามแบบเคลียร์ๆ อ่านจบสุขภาพดีแน่นอน
การดีท็อกซ์ล้างลำไส้ หรือ Detoxification
นั้นแท้จริงแล้วความหมายของมันก็คือ การขจัดสารพิษและสิ่งแปลกปลอมออกไปจากร่างกายของเรา โดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ นั่นเองค่ะ หลายคนอาจจะเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเราจะต้องดีท็อกล้างลำไส้ด้วย แล้วมันดีหรือไม่ดียังไง วันนี้เราจะมาตอบทุกๆ คำถามกัน เพราะฉะนั้นเราไป ทำความเข้าใจเรื่องการดีท็อกซ์ล้างลำไส้กันเลยดีกว่า
ทำไมต้องดีท็อกล้างลำไส้?
การที่ต้องดีท็อกซ์ล้างลำไส้ก็เพื่อทำความสะอาดและขจัดสิ่งสกปรกในลำไส้ ของเสีย เมือกมันของน้ำมัน รวมทั้งก๊าซสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ออกไป เวลาที่ของเสียต่างๆ ถูกกำจัดออกไปไม่หมด อาจส่งผลร้ายต่อร่างกายเราได้นะคะ ที่นี้ทุกคนก็คงจะเกิดคำถามว่า
ของเสีย เมือกมันของน้ำมัน รวมทั้งก๊าซสารพิษที่ตกค้างในลำไส้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
เริ่มต้นจาก ของเสีย หรือ อุจาระตกค้าง เกิดจากอะไร?
1. ปัญหาท้องผูก รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย ไม่ออกกำลังกายหรือไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย กลั้นอุจจาระบ่อยๆ ซึ่งผู้ที่มีอาการท้องผูกมากถึง 50% มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมหล่านี้
2. ภาวะที่ขับถ่ายอุจจาระออกไม่หมด สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แม้แต่ผู้ที่มีสุขภาพดีหรืออุจจาระทุกวันแต่อุจจาระไม่หมด โดยอาจเกิดจากการเบ่งถ่ายผิดวิธีหรืออาจเกิดจากพฤติกรรมการกลั้นอุจจาระ และผู้ที่มีปัญหาท้องผูกเป็นระยะเวลานานๆ
ปัญหาการเกิดเมือกมันในลำไส้
1. เกิดจากสะสมของเสียและอุจจาระตกค้างในลำไส้ จึงเกิดทำให้เป็นคราบตะกรันในลำไส้
2. เกิดจากการทานอาหารประเภทของมัน ของทอด และของปิ้งย่าง หรือการกินอาหารประเภท fastfood หรือ เบเกอรี่ ไขมันจากสัตว์ ไขมันจากนม หรือไขมันจากพืชไขมันหลบซ่อน ในอาหารจานเดียว ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู บะหมี่ ผัดผัก
ปัญหาของการเกิดก๊าซ สารพิษ ในร่างกาย
1. สารพิษที่เกิดจากภายใน การเกิดก๊าซในลำไส้ ก็เกิดจากของหมักเสียที่สะสมในลำไส้ และไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันในลำไส้ ซึ่งในลำไส้มีระบบภูมิคุ้มกัน ถึง 70% หรือผู้ที่มีภาวะความเครียด และหรือที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
2. สารพิษที่เกิดจากภายนอก หรือ toxicants สารเคมีที่เรา ทาน สัมผัส หายใจ เข้าสู่ร่างกาย ส่วนใหญ่คือสารเคมีสังเคราะห์ต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย เช่นยา ฮอร์โมน สารเคมีกำจัดวัชพืช ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี ยาเร่ง การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา เป็นต้น
ที่นี้ทุกคนก็เห็นแล้วใช่ไหมค่ะ ว่า ของเสีย เมือกของน้ำมัน รวมทั้งก๊าซสารพิษที่ตกค้างในลำไส้เกิดขึ้นได้อย่างไร
เราก็มาดูกันต่อว่า ทำไมเราต้องดีท็อกซ์? ทำไมเราต้องนำของเสียออก? อุจจาระที่ตกค้าง คราบ ตะกรัน สารพิษต่างๆออกจากลำไส้ บางคนอาจจะมีความสงสัยว่า ทำไมเราจะต้องดีท็อกซ์ลำไส้กันด้วย มีความจำเป็นขนาดไหน วันนี้เรามาหาคำตอบกันว่า ดีท็อกซ์ล้างลำไส้ จำเป็นหรือไม่ มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงหรือ ?
จุดเริ่มต้นเลย เราต้องทำความเข้าใจระบบการทำงานของลำไส้ การดูดซึม และการขับสารพิษในร่างกายของเราก่อนนะคะ
คนส่วนใหญ่มักนึกถึงสุขภาพของหัวใจ ปอดและสมอง มาก่อนอวัยวะอื่นๆ แต่รู้หรือไม่ว่าลำไส้ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่ากันในเรื่องของสุขภาพ ในความเป็นจริง ระบบทางเดินอาหารเปรียบเสมือนเครื่องฟอกของเสียที่ทำให้ร่างกายสะอาดและเป็นเครื่องผลิตพลังงาน ระบบการย่อยอาหารที่ดีมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะส่วนสำคัญที่เรียกว่า วิลไล
วิลไล ( Villi ) หรือพนังลำไส้นั่นเอง มีหน้าที่สำคัญคือ ดูดซึมสารอาหารเข้าสู่กระแสเลือด และปกป้องไม่ให้สารพิษเข้าสู่กระแสเลือดเช่นเดียวกัน แต่ถ้าลำไส้มีการสะสมของ ของเสีย อุจจาระตกค้าง ไปปกคลุมพนังลำไส้ จึงทำให้พนังลำไส้ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารเข้าสู่กระแสเลือด ลำไส้เกิดการอักเสบ เกิดความเสียหายต่อ ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเซลล์
เซลล์จึงสูญเสียความสามารถในการควบคุมการผ่านเข้าออกของสาร บรรดาสารพิษ สารก่อภูมิแพ้ และเชื้อก่อโรคจึงสามารถเล็ดลอดผ่านช่องว่างเหล่านี้เข้าสู่กระแสเลือดได้โดยไม่ผ่านการกรอง จึงเกิดภาวะที่ เรียกว่า "ภาวะลำไส้รั่ว" หรือ "Leaky Gut Syndrome" ร่างกายจึงต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ จนก่อให้เกิดปัญหาการอักเสบเรื้อรังซ้ำซากและกลายเป็นอาการเจ็บป่วยตามมา เราจึงต้องทำดีท็อก ล้างสารพิษ นำอุจจะระตกค้าง เมือกมันคราบตะกรันต่างๆ ออกจากลำไส้ เพื่อให้ พนังลำไส้ หรือ วิลไล สามารถดูดซึมสารอาหาร และปกป้องสารพิษเข้าสู่กระแสเลือดนั่นเองค่ะ เพราะหากสารพิษ ก๊าซพิษ ของเสีย ต่างๆเข้าสู่กระแสเลือด กระแสเลือดก็จะนำสารพิษเข้าสู่อวัยวะต่างๆในร่างกายของเรานั่งเอง
เรามาดูกันนะคะ ว่า มีวิธีการสังเกตุว่าอาการบ่งชี้..ว่ามีสารพิษตกค้างในร่างกายกันนะคะ
1. เหนื่อยง่าย ปากเหม็น ปากเปื่อย มีกลิ่นตัวแรง
2. ท้องผูก ริดสีดวง ท้องเสีย ท้องอืด ผายลมบ่อยๆ
3. หอบหืด ภูมิแพ้ เป็นลมพิษ
4. ปวดศีรษะบ่อย ปวดเมื่อยหลัง
5. ร้อนในเป็นประจำ
6. ผิวหน้าหมองคล้ำ หยาบกร้าน เกิดสิวและฝ้า
7. อ่อนเพลีย ง่วงนอน สมาธิไม่ดี ความจำเสื่อม
8. ผื่นคัน เป็นแผล และเป็นฝีบ่อยๆ
ข้อดีของการดีท็อกซ์ล้างลำไส้
แน่นอนว่าการดีท็อกซ์มีผลดีต่อร่างกายค่ะ เพราะถ้าไม่ดี เราคงไม่เลือกใช้วิธีนี้ การดีท็อกซ์เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยกำจัดของเสียและสารพิษที่คั่งค้างภายในลำไส้ ทั้งยังช่วยปรับสมดุลร่างกาย ฟื้นฟูระบบต่างๆ กระตุ้นการขับถ่าย แก้อาการท้องผูกได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนี้การดีท็อกซ์ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย แถมยังช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วย ใครที่มีปัญหาสิว ผิวไม่สดใส แนะนำให้ลองดีท็อกซ์ล้างลำไส้สักครั้ง ช่วยได้เยอะจริงๆ ซึ่งการดีท็อกซ์ล้างลำไส้จะช่วยทำความสะอาดลำไส้และแบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย ลดการสะสมสารพิษและเมื่อสารพิษต่าง ๆ ถูกชะล้างออกไป ลำไส้ก็จะทำงานได้ตามปกติ ทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่นขึ้น ถ้าเราไม่ดีท็อกซ์ลำไส้เลย การที่มีของเสียไปตกค้างที่ลำไส้มากๆ อาจจะส่งผลให้ลำไส้อ่อนแอ ฉะนั้นเมื่อมีการดีท็อกซ์ล้างลำไส้แล้วจะช่วยให้กล้ามเนื้อลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น กำจัดของเสียได้มากขึ้น ทำให้ไม่มีสารพิษตกค้างในลำไส้นั่นเอง
ปกติร่างกายของคนเรานั้นมีการขับถ่ายและกำจัดของเสียตามธรรมชาติอยู่แล้วค่ะ แต่อย่างไรก็ตามหากกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายเรายังไม่เพียงพอ อีกหนึ่งทางเลือกที่เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดที่เราอยากแนะนำก็คือ การดื่ม ไอเบอร์รี่ ไฟเบอร์ นั่นเองค่ะ
ไอเบอร์รี่ ไฟเบอร์ คือ นวัตกรรม Health & Beauty Detox ที่รวม ไฟเบอร์ + ไฟโตนิวเทรียนท์ ในผักและผลไม้ เป็นตัวช่วยสำคัญในการช่วยแก้อาการท้องผูกแบบลงลึกถึงต้นตอของปัญหา โดยจะช่วยให้อุจจาระนุ่มขึ้น ขับถ่ายง่าย และโล่งสบายท้อง และปรับสมดุลลำไส้ได้อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูระบบขับถ่ายได้อย่างดีเลิศ อีกทั้งยังช่วยขับล้างสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ ในเลือด และในตับ ช่วยปรับสมดุลลำไส้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้แล้วยังช่วยในเรื่องของการเผาผลาญและช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วยค่ะ
ในส่วนของความปลอดภัยนั้นขอบอกเลยว่าปลอดภัยแน่นอนค่ะ เพราะอาหารเสริมตัวนี้มีส่วนผสมสกัดจากธรรมชาติ 100% ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก อย. อย่างถูกต้อง และผ่านมาตรฐาน GMP และ HACCP ระดับสากล ที่สำคัญคือในเรื่องของรสชาติค่ะ เพราะตัวนี้มีรสอร่อย ดื่มง่าย ไม่ทำให้ปวดบิด คุณสามารถดื่มไอเบอร์รี่ได้อย่างต่อเนื่องทุกวันโดยไม่มีผลข้างเคียง แต่ยิ่งดื่มต่อเนื่อง ยิ่งช่วยให้รูปร่างดีขึ้นและผิวพรรณดูเปล่งประกายมีออร่าเพิ่มขึ้นด้วยล่ะค่ะ
วิธีทานง่ายมากค่ะ ใน 1 กล่องจะประกอบด้วย ไอเบอร์รี่ 15 ซอง สามารถรับประทานวันละ 1 ซอง ฉีกซองผสมน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็นประมาณ 150 – 200 มล. จากนั้นคนให้เข้ากัน แล้วดื่มได้ทันที แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าตามอีก 1 แก้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของในการทำงาน ควรดื่มก่อนนอน อย่างน้อย 2 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่เหมาะสม แนะนำเป็นตอน 20.00 – 22.00 น. เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการทำงานของร่างกายค่ะ
เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะอยากทราบว่า ดื่มไปแล้ว เห็นผลไหม ต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะเห็นผล สำหรับผลิตภัณฑ์ ไอเบอร์รี่ นั้นคุณจะสามารถเห็นผลเรื่องการขับถ่ายที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ซองแรกที่รับประทานเลยค่ะ โดยผลลัพธ์จะชัดเจนที่สุดในช่วง 2 สัปดาห์หลังรับประทาน โดยแนะนำให้ทานต่อเนื่องจนครบ 4 สัปดาห์ จะทำให้ระบบลำไส้กลับมาทำงานเป็นปกติ ซึ่ง ไอเบอร์รี่ ไฟเบอร์ นี้จะแตกต่างจาก Detox ยี่ห้ออื่นๆ ที่มีส่วนผสมของ ยาระบาย หรือ มะขามแขก อาการที่เกิดขึ้นเมื่อหยุดทานจึงกลับมามีอาการท้องผูกมากขึ้นกว่าเดิม
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนเกิดความกังวลคือ หากเราหยุดดื่มแล้ว จะกลับมาท้องผูกเหมือนเดิมมั้ย? บอกตรงนี้เลยว่า มันจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น เมื่อคุณได้ลองดื่มไอเบอร์รี่ ไฟเบอร์ อาหารเสริมตัวนี้ เขาจะเข้าไปช่วยปรับสมดุลลำไส้ หากเราหยุดดื่มแล้ว จะไม่กลับมาท้องผูกเหมือนเดิม เนื่องจากมีจุลินทรีย์ที่ช่วยในการฟื้นฟูระบบลำไส้ เมื่อทานอย่างต่อเนื่องการทำงานของลำไส้จะฟื้นตัวดีขึ้น ระบบขับถ่ายจะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งต่างจาก Detox ทั่วไปที่มีส่วนผสมของยาระบาย หรือ มะขามแขก ที่เข้าไปกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวและทำให้ระบบขับถ่ายเสียสมดุล เมื่อหยุดก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรืออาจจะหนักกว่าเดิม แต่ไอเบอร์รี่จะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเขาจะช่วยให้เราขับถ่ายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ใช่ถ่ายหลายๆ รอบเหมือนคนท้องเสีย แถมอุจจาระที่ออกมายังมีลักษณะนุ่มฟูและมีมวล บ่งบอกถึงสุขภาพลำไส้ที่ดีอีกด้วยค่ะ
15 ก.ย. 2567
10 ก.ย. 2567
15 ก.ย. 2567